เลข Tedet กับเด็กป.4

หลานอยู่ป.4 เอาข้อสอบเลข tedet มาให้ดู เธอบอกอ่านเฉลยแล้วยังงงๆ โจทย์ถามความยาวด้านของสี่เหลี่ยมรูปที่ 11 (โจทย์ตามรูป 1) และเฉลย (ตามรูป 2) 

เห็นแล้ว จึงเขียนเฉลยเพิ่มให้หลานดู

โจทย์ให้ รูปที่ 1 ด้านยาว 1 เซนติเมตร ดังนั้น 

รูปที่ 2 ด้านจะยาว 1 เซนติเมตร 

รูปที่ 3 ด้านจะยาว 2 เซน (1+1) 

รูปที่ 4 ด้านจะยาว 3 เซน (2+1) 

รูปที่ 5 ด้านจะยาว 5 เซน (3+2) 

รูปที่ 6 ด้านจะยาว 8 เซน (3+5) 

รูปที่ 7 ด้านจะยาว 13 เซน (8+5) 

รูปที่ 8 ด้านจะยาว 21 เซน (13+8) 

รูปที่ 9 ด้านจะยาว 34 เซน (21+13) 

รูปที่ 10 ด้านจะยาว 55 เซน (34+21) 

รูปที่ 11 ด้านจะยาว 89 เซน (55+34) บอกหลานว่า ความยาวของสี่เหลี่ยม จะเท่ากับ ผลบวกของความยาวสี่เหลี่ยมสองรูปที่มาก่อน

พอเห็นตัวเลขชุดนี้ในเฉลยของ tedet หลายคนที่ทำข้อสอบบ่อยๆ คงเคยผ่านตามาบ้าง เราเรียกลำดับแบบนี้ว่า ลำดับฟิโบนักซี 

ลำดับฟิโบนักซี (Fibonacci sequence) คือ จำนวนลำดับที่ 3 ขึ้นไป เกิดจากสองจำนวนที่มาก่อนบวกรวมกัน ดังนี้ ลำดับ 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13… จำนวนถัดไปในลำดับ คือ 21 ซึ่งจะคำนวณได้โดยนำ 8 บวกด้วย 13 ได้ 21 เด็กๆจะได้เห็นตัวเลขชุดนี้บ่อย ตั้งแต่ข้อสอบระดับประถม

นอกจากนี้ ยังมีวันฟิโบนักซี ด้วยนะ
วันที่ 23 พฤศจิกายน ของทุกปีเป็น “วันฟีโบนักชี หรือ Fibonacci Day” ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่ Leonardo Bonacci ผู้ค้นพบ “ลำดับฟีโบนักชี”
เนื่องจาก “วันที่ 23 พฤศจิกายน” เมื่อนำวันและเดือนมาเขียนในรูปแบบ 11/23 จะสังเกตได้ว่าตัวเลขในแต่ละหลักตรงกับ 4 พจน์แรกของลำดับฟีโบนักชี จึงได้กำหนดให้วันนี้ของทุกเป็นเป็นวันฟีโบนักชีนั่นเอง
 
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ลำดับฟีโบนักชีเป็นที่สนใจของคนทั่วไป เป็นเพราะมีการค้นพบความสอดคล้องอย่างลงตัวมากมายของลำดับนี้กับปรากฏการณ์ในธรรมชาติ เช่น เกลียวตาสับปะรด เกลียวเกสรดอกทานตะวัน หรือเกลียวโคนต้นสน ซึ่งเมื่อนับจำนวนเกลียวเวียนซ้ายและเวียนขวาจะไม่เท่ากัน แต่กลับไปเหมือนจำนวนคู่หนึ่งที่อยู่ติดกันในลำดับฟีโบนักชี นอกจากนี้ยังพบความสัมพันธ์กับสิ่งต่าง ๆ รอบตัวอีกมากมาย เช่น สัดส่วนในงานออกแบบสถาปัตยกรรม งานด้านดนตรี เปลือกหอยบางประเภท สัดส่วนของส่วนต่าง ๆ ในร่างกายมนุษย์และสัตว์